ดัชนีความเชื่อมั่นของประชาชนในภาคใต้ ด้านเศรษฐกิจและสังคม เดือนเมษายน 2565
ศูนย์วิจัยนวัตกรรมทางธุรกิจ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ ได้ดำเนินการจัดทำดัชนีความเชื่อมั่นของประชาชนในภาคใต้ ด้านเศรษฐกิจและสังคม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อวัดการเปลี่ยนแปลงของ สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจและสังคมของประชาชนในภาคใต้ เก็บแบบสอบถามกับกลุ่มตัวอย่างจากประชาชนในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ จำนวน 420 ตัวอย่าง
ผลการสำรวจความเชื่อมั่นของประชาชนในภาคใต้ ด้านเศรษฐกิจและสังคม เดือนเมษายน เปรียบเทียบ
เดือนมีนาคม และคาดการณ์ในอีก 3 เดือนข้างหน้า
รายการข้อคำถาม | มีนาคม 2565 | เมษายน 2565 | คาดการณ์ใน 3 เดือนข้างหน้า | ||||||||
เพิ่มขึ้น/ | คงที่/ | ลดลง/ | เพิ่มขึ้น/ | คงที่/ | ลดลง/ | เพิ่มขึ้น/ | คงที่/ | ลดลง/ | |||
ดีขึ้น | เท่าเดิม | แย่ลง | ดีขึ้น | เท่าเดิม | แย่ลง | ดีขึ้น | เท่าเดิม | แย่ลง | |||
1. ภาวะเศรษฐกิจโดยรวม | 25.10 | 45.80 | 29.10 | 25.30 | 45.40 | 29.30 | 38.60 | 47.50 | 13.90 | ||
2. รายได้จากการทำงาน | 25.40 | 44.60 | 30.00 | 25.60 | 44.20 | 30.20 | 32.80 | 35.70 | 31.50 | ||
3. รายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าอุปโภค บริโภคที่จำเป็นในครอบครัว | 26.40 | 45.90 | 27.70 | 26.60 | 44.70 | 28.70 | 35.60 | 45.80 | 18.60 | ||
4. รายจ่ายด้านการท่องเที่ยว เช่น การเดินทาง ที่พัก อาหาร และอื่น ๆ | 34.30 | 45.20 | 20.50 | 34.20 | 45.70 | 20.10 | 39.60 | 49.80 | 10.60 | ||
5. ความสุขในการดำเนินชีวิต | 26.10 | 47.10 | 26.80 | 26.40 | 47.50 | 26.10 | 34.10 | 55.80 | 10.10 | ||
6. ฐานะการเงิน (รายได้หักรายจ่าย) | 26.30 | 45.60 | 28.10 | 26.50 | 45.80 | 27.70 | 35.40 | 48.30 | 16.30 | ||
7. การออมเงิน | 25.80 | 47.70 | 26.50 | 25.70 | 47.40 | 26.90 | 37.10 | 48.50 | 14.40 | ||
8. การรักษามาตรฐานค่าครองชีพ | 30.70 | 44.70 | 24.60 | 30.40 | 44.30 | 25.30 | 36.50 | 50.40 | 13.10 | ||
9. การลดลงของหนี้สิน | 29.80 | 47.10 | 23.10 | 29.60 | 48.70 | 21.70 | 32.10 | 50.70 | 17.20 | ||
10. ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน | 24.70 | 45.60 | 29.70 | 24.90 | 45.80 | 29.30 | 30.10 | 54.60 | 15.30 | ||
11. การแก้ปัญหายาเสพติด | 28.20 | 44.30 | 27.50 | 28.00 | 44.80 | 27.20 | 34.60 | 45.20 | 20.20 | ||
12. การแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ | 27.20 | 45.40 | 27.40 | 27.50 | 45.60 | 26.90 | 30.30 | 48.60 | 21.10 | ||
13. การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ | 30.20 | 46.20 | 23.60 | 30.50 | 46.40 | 23.10 | 34.20 | 51.20 | 14.60 | ||
ความเชื่อมั่นของประชาชนในภาคใต้ด้านเศรษฐกิจและสังคม เดือนกุมภาพันธ์ มีนาคม และเมษายน 2565
รายการข้อคำถาม | 2565 | ||
กุมภาพันธ์ | มีนาคม | เมษายน | |
1. ภาวะเศรษฐกิจโดยรวม | 42.00 | 41.60 | 43.50 |
2. รายได้จากการทำงาน | 38.60 | 38.50 | 40.10 |
3. รายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าอุปโภค บริโภคที่จำเป็นในครอบครัว | 52.00 | 52.30 | 52.80 |
4. รายจ่ายด้านการท่องเที่ยว เช่น การเดินทาง ที่พัก อาหาร และอื่น ๆ | 39.50 | 39.80 | 43.20 |
5. ความสุขในการดำเนินชีวิต | 46.90 | 46.80 | 47.30 |
6. ฐานะการเงิน (รายได้หักรายจ่าย) | 38.20 | 38.00 | 40.90 |
7. การออมเงิน | 39.50 | 39.20 | 39.10 |
8. การรักษามาตรฐานค่าครองชีพ | 42.10 | 41.70 | 41.50 |
9. การลดลงของหนี้สิน | 49.10 | 48.90 | 48.80 |
10. ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน | 35.00 | 34.90 | 36.40 |
11. การแก้ปัญหายาเสพติด | 47.10 | 47.00 | 46.80 |
12. การแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ | 36.90 | 37.00 | 37.10 |
13. การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ | 32.30 | 32.00 | 32.20 |
14. ความเชื่อมั่นของประชาชนโดยรวม | 41.10 | 40.80 | 41.30 |
ผศ.ดร.วิวัฒน์ จันทร์กิ่งทอง ผู้จัดการศูนย์วิจัยนวัตกรรมทางธุรกิจ รายงานผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของประชาชนในภาคใต้ ด้านเศรษฐกิจและสังคม เดือนเมษายน 2565 พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของประชาชนโดยรวมเดือนเมษายน 2565 (41.30) ปรับตัวเพิ่มขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมีนาคม 2565 (40.80) และเดือนกุมภาพันธ์ (41.10) โดยดัชนีที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ ภาวะเศรษฐกิจโดยรวม รายได้จากการทำงาน รายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าอุปโภคและบริโภค รายจ่ายด้านการท่องเที่ยว ความสุขในการดำเนินชีวิต ฐานะการเงิน (รายได้หักรายจ่าย) ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และการแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยปัจจัยบวกที่สำคัญ คือ ประชาชนส่วนหนึ่งได้ใช้จ่ายเงินในการเดินทางท่องเที่ยวและเดินทางกลับภูมิลำเนา รวมถึงการเลี้ยงสังสรรค์ช่วงวันหยุดยาวในเทศกาลวันสงกรานต์ ตั้งแต่วันที่ 13-17 เมษายน มีการพักค้างคืนตามสถานที่พักแรมจำนวนมาก ซึ่งโดยส่วนใหญ่ใช้ส่วนลดโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ส่งผลให้มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจมากขึ้น นอกจากนี้ในช่วงเดือนเมษายนประชาชนส่วนหนึ่งเริ่มคลายความกังวลจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และประชาชนที่ทำอาชีพค้าขายเริ่มประกอบอาชีพได้อย่างปกติมากขึ้น ส่งผลให้มีรายได้จากการประกอบอาชีพเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้การเดินทางท่องเที่ยวของคนไทยช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ฟื้นตัวจากปีที่ผ่านมา แต่การฟื้นตัวยังไม่ทั่วถึง ทั้งนี้เพราะศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ยังต้องเฝ้าระวังการระบาดของโควิด -19 จึงผ่อนคลายให้สามารถจัดกิจกรรมประเพณีสงกรานต์ได้เพียงบางส่วน แต่ห้ามเล่นน้ำ ประแป้ง หรือปาร์ตี้โฟม เป็นต้น อีกทั้ง ราคาอาหารและสินค้าแพงขึ้นมาก ประกอบกับประชาชนในประเทศมีกำลังซื้อที่ลดลง และนักท่องเที่ยวต่างชาติก็ยังมีจำนวนไม่มาก ทำให้การใช้จ่ายโดยภาพรวมเพื่อการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์เฉลี่ยต่อทริปลดลงค่อนข้างมากเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีก่อนมีการแพร่ระบาดของโควิด-19
จากการสัมภาษณ์ประชาชนภาคใต้ในหลายสาขาอาชีพ เพื่อรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับผลกระทบที่เกิดขึ้น แนวทางการแก้ไข และความคิดเห็นต่อมาตรการต่าง ๆ ของภาครัฐ รวมถึงข้อเสนอแนะต่าง ๆ มีดังนี้
- ประชาชนที่มีรายได้น้อยถึงปานกลางมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้น สาเหตุสำคัญมาจากราคาเชื้อเพลิงที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบถึงต้นทุนที่สูงขึ้นของสินค้าอุปโภคบริโภคต่าง ๆ ต้องปรับราคาสูงขึ้นตามต้นทุน ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ยังคงมีรายได้เท่าเดิมหรือลดลง จึงเสนอแนะให้ภาครัฐออกมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง เพื่อลดภาระค่าครองชีพที่สูงขึ้นมากในขณะนี้
- ประชาชนส่วนหนึ่งมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ผู้ติดเชื้อยังคงมีจำนวนหลักหมื่นคนอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งเดือนเมษายน ส่งผลให้อัตราผู้ติดเชื้อเสี่ยงสูงที่จะเสียชีวิตมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็นหลักร้อยคน ซึ่งยอดผู้เสียชีวิตควรลดน้อยลงจากมาตรการป้องกันตนเอง และฉีดวัคซีนไวรัสโควิด-19 จึงเสนอแนะให้ภาครัฐหาวิธีลดอัตราผู้เสียชีวิตจากผู้ติดเชื้อโควิด-19 ให้ต่ำกว่าหลักร้อย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนทั้งในประเทศและต่างประเทศ
- เกษตรกรมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับต้นทุนปัจจัยการผลิตภาคเกษตรและปศุสัตว์ที่เพิ่มสูงขึ้นมาก ได้แก่ ราคาปุ๋ย อาหารสัตว์ และสารเคมีทางการเกษตร เป็นต้น ถึงแม้ว่าราคาผลผลิตการเกษตรช่วงนี้จะมีราคาสูงขึ้น แต่เกษตรกรก็มีต้นทุนค่าใช้จายในการผลิตเพิ่มขึ้นมากเช่นกัน จึงเสนอแนะให้ภาครัฐหามาตรการช่วยเหลือเกี่ยวกับต้นทุนปัจจัยการผลิตภาคเกษตรและปศุสัตว์ เพื่อลดภาระให้แก่เกษตรกร
ผลคาดการณ์ในอีก 3 เดือนข้างหน้า พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่เชื่อว่าภาวะเศรษฐกิจโดยรวม และรายได้จากการทำงานจะเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 38.60 และ 32.80 ตามลำดับ ส่วนความเชื่อมั่นต่อรายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าอุปโภค บริโภคที่จำเป็นในครัวเรือน และรายจ่ายด้านการท่องเที่ยว ในอีก 3 เดือนข้างหน้า จะเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 35.60 และ 39.60 ตามลำดับ ส่วนความเชื่อมั่นด้านความสุขในการดำเนินชีวิต การแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และการแก้ปัญหาเศรษฐกิจในอีก 3 เดือนข้างหน้า จะเพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 34.10
30.30 และ 34.20 ตามลำดับ
ปัจจัยที่ประชาชนส่วนใหญ่มองว่ามีผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบันมากที่สุด คือ ค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น คิดเป็นร้อยละ 41.60 รองลงมา คือ ภาระหนี้สินของประชาชน และการแพร่ระบาดของ โควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน คิดเป็นร้อยละ 24.70 และ 19.20 ตามลำดับ ขณะที่ปัญหาเร่งด่วนที่ประชาชนส่วนใหญ่มองว่ารัฐบาลควรรีบดำเนินการและให้ความช่วยเหลือ อันดับแรก คือ การแก้ปัญหาค่าครองชีพสูง รองลงมา คือ การช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย การแก้ปัญหาหนี้สินของประชาชน รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ตามลำดับ